วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ปิดเทอมนานจัง**
นี่ก็วันสุดท้ายที่จะอยู่บ้าน(นอก)555 พรุ่งนี้ก็จะกลับ กทม เเล้ว อยู่บ้านไม่เจอเเสงเดือนเเสงตะวันมา 14 วันเต็มๆๆ ผิวนี้ ขาวซีดเชียว เเต่ก็ดี ไม่ต้องเเต่งหน้าเรย พักผิว หน้านี้ดีขึ้นมากกกกก เเถมมีเเก้มนิดหน่อยเเล้ว กลับไปกทม จะไปฉีดเพิ่ม อีก หวังว่าคงดีขึ้นนะจ้ะ เเก้มมจ๋า
กลับมาบ้านเลี้ยงหมา ทำกับข้าว ล้างจาน กวาด - ถูบ้าน **โอ้ยสารพัด เเต่สนุกดี คิดถึงสมัยเด็กๆ ที่เรียนมัธยม อยู่บ้าน ทำงานบ้าน แต่ตอนนี้เเก่เเล้วว เดือนหน้าก็จะ 22 ปี เเล้ว โอ้ยยยความเเก่มาเยือน อยู่บ้านขัดผิวทุกวัน ขมิ้นบ้าง น้ำผึ้งบ้าง โยเกริตด้วยโบกเข้าไปเต็มที่ 555... เหลืองเชี๊ยะ ตัวเนี้ยะ เเต่ก็ดีๆ อยู่กทม ไม่มีเวลาทำ เรียนกลับมาก็สลบเลย มาคราวนี้เเม่ก็ซื้อโน่น นี่ นั่น สารพัดสัตว์บก มาให้กิน เเละมาให้ทำอาหาร เเละเป็นครั้งเเรกที่ได้ตำน้ำพริกปลาทู by myself ดีใจมากก อร่อยด้วยขอบอกก เเซบมาก กลับมาบ้านกินส้มตำ**ปลาร้า** อยู่ 3 ครั้ง 555555 เเซบบ เเต่วันสุดท้ายที่กินเเม่ค้าฝีมือตกไปนะ.......พรุงนี้กลับกทมเเร้ว ซื้อ ขนม กะปลาส้มไปฝากบอลกะเจ้น้องพี่สาวบอล ฮี่ๆ คนในรถจะได้กลิ่นปลาส้มมั้ยนี่ เราละกลัว กะว่ากลับบไปถึงก็จะไปหาพี่ๆที่ไมเนอร์ SW เพราะพี่วัติจะออกเเล้ว จะย้ายไปอยู่ทีอื่น ต้องไปเลี้ยงซะหน่อยไปเเละต้องไปเเบบเซอร์ไพรส์ 5555 วางเเผนกะพี่วินเเล้วว วว เด๋วชวนบอลไปด้วย
โอ้ย กลับ กทม มีเเผนที่ต้องทำเยอะเเยะเลย *** เช่นไปเลี้ยงส่งพี่วัติ เรียนภาษาอังกฤษ ทำหน้า เปลี่ยนกระดุมสูท ฯ ,a lot อ่ะ เหนื่อยไว้รอเรย เกรดก็ยังไม่ออกซักกาตัว ม.กรุงเทพ ค่าเทอมก็เเพงนะ เเต่เกรดนี่ออกช้าเป็นเต่าเลย ออกไวไว ลุ้นๆๆๆๆ อยากได้นาฬิกาFCUK จะได้เอาเกรดเเลกกะเเม่ ฮิๆๆๆ **แผนสูงง งง
เริ่มเหนื่อยเอาเป็นว่า พอก่อน ปวดฉี่มากด้วยย
good nigtH** ตัวเองละกัน
Ps. ไม่รู้จะได้กลับบ้านอีกเมือ่ไหร่ คงเป็น มีนา ปีหน้า เพราะเรียนจบเเล้วตอนนั้น จะมาอยู่ยาวๆๆซัก 1 เดือนเรย ละกัน
วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552
กลับมาเล่า
วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552
Bu opEn hoUse!!
อันนี้เด็กบอร์ด อยู่ข้างๆ
น้องๆล้วงไฟกันอยู่
ตูนกะเรา เออ ..เราตัดผมสั้นละ
ทำไมรูปนี้เล็กๆนะ
เเกลอรี่ของภาคเราเอง รูปน้อยไปนิด** เป็นคำจำกัดความของเเบรนด์ในสายตาผู้บริหารระดับโลก เช่น ผู้บริหารจาก IBM /Sumsung /Apple ...
น้องๆที่สนใจก็มาเป็นรุ่นน้องภาควิชา Brand Communucations ได้นะค่ะ เป็นที่เดียวในประเทศไทย ที่เเรกที่เดียว น่าภูมิใจชะมัด..เลย***
แบรนด์ คือ การสื่อสารคุณค่าเเละประสบการณ์ขององค์กรไปสู่ Stakeholder ผ่านทุกๆช่องทางการสื่อสาร(Brand touch Point ) เพื่อนำมาซึ่งคุณค่าเเละมูลค่าขององค์กร(Brand Equity) เเละก่อให้เกิดความคาดหวัง(Expectation)เเละความเชื่อมั่นไว้วางใจ(Trust)ของผู้บริโภค...
เเบรนด์ คือ Total Experience ทำให้องค์กรนั้น Sustainable มีคุณค่าในสายตาลูกค้า เเละเหนือกว่าคู่เเข่ง***จ้า....
ทำไมต้องมีเเบรนด์ ทำไมต้อง Branding??? จากที่เราเรียนมาคำตอบน่าจะ
1. เพราะปัจจุบัน Product Life Cycle มันสั้นลงมาก ทุกองค์กรมีเทคโนโลยีที่ทัดเทียมกันนะ
2. สินค้าเเละบริการจึงไม่มีอะไรที่ต่างกันเลย
3. อีกทั้งเทคโนโลยีนี่มันเลียนเเบบกันได้ เเต่ที่เลียนเเบบไม่ได้คือ คุณค่าเเละประสบการจากการใช้เทคโนโลยีไง จะบอกว่าโปรดักส์ มันมีวันหมดอายุเเต่แบรนด์ไม่มีหมดอายุจ้ะ มีเเต่จะเพิ่มพูนเป็นภูเขาเลากา
4. จากเวลาที่ขาดสีสัน แบบว่าเวลามันไปไว้ไว..เเบรนด์ช่วยสร้างความไว้วางใจ ความคุ้นเคยเเละความอบอุ่นให้กับลูกค้า.. ..... .
สรุป ที่ต้องมีเเบรนด์เพราะเเบรนด์ทำให้ธุรจยั่งยืน ลูกค้าจะเลือกเราก่อนเเบบว่าเป็น Top of mind ลูกค้าจะมีความภักดีกะเราคนเดียวเเบบว่ามี Brand Loyalty ไง ถึงจะมีคู่เเข่งล้านเเปด ลูกค้าก็รัก เเละซื้อเเต่ของๆเรา เเบรนด์ดีอย่างงี้นี่เอง ถ้ายังงั้น ...ควรสร้างเเบรนด์กันเถอะ!!
***PS. ความหมายนี่เราเจียระไนเอง อ้างอิงจากสมองเราล้วนๆ จากที่เรียนมา 4 ปี ณ ม.กรุงเทพ เราเรียบเรียบได้ว่าประมาณนี้ สำหรับคนที่คิดคิดว่า แบรนด์คือ เเบรนด์เนม หรือ โลโก้ คุณคิดผิดถนัดดด ด ดด
**มาเป็นเด็กเเบรนด์กัน เเล้วคุณจะรู้ว่าทำไม Microsoft ถึงรวยมากกก... แล้วสาวก Apple ก็มหาศาล ทำไมCOKE ถึง เป็นเเบรนด์อันดับ 1 ของโลก (ไม่อยากรู้เหรอ??)
มามะๆ มาเรียนกัน สนุก เเละทั่วโลกให้ความสนใจการ Branding มากกกกกกกก CONFIRM !! ! !!
วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
เพิ่งเริ่มทำเพราะมีเหตุ
เเนะนำตัวก่อน ชื่อเมย์ จะขึ้นปี 4 ม.กรุงเทพ คณะ นิเทศศาสตร์ ภาควิชา การสื่อสารเเบรนด์ นะค้า..~~~**
****